Feature

โคตะ มิอุระ: ลูกชาย "คิงคาซู" ผู้ยืดอกขอใช้ตัวตนพ่อจารึกชื่อในวงการ MMA | Main Stand

การเป็นลูกของคนดัง สิ่งที่ตามมาคือสายตาที่ถูกจับจ้องมาตั้งแต่วัยกระเตาะ ขณะเดียวกันพวกเขายังต้องเผชิญความกดดัน ที่เป็นเหตุผลให้หลายคนไม่เลือกที่จะเดินตามรอยผู้ให้กำเนิด 


 

แต่อาจจะไม่ใช่สำหรับ โคตะ มิอุระ ลูกชายของ "คิงคาซู" คาซึโยชิ มิอุระ แข้งระดับตำนานแห่งวงการฟุตบอลญี่ปุ่น ที่แม้จะไม่ได้เล่นฟุตบอลเหมือนพ่อ แต่ก็ยังอยู่ในวงการกีฬา ที่ล่าสุดเพิ่งจะชนะเอาคู่แข่งในศึกศิลปะป้องกันตัวแบบผสม (MMA) ในวันส่งท้ายปีเก่าที่ผ่านมา  

นอกจากนี้ในขณะที่หลายคนเลือกที่จะไม่ใช้ชื่อเสียงของพ่อกรุยทางในวงการ แต่สำหรับ โคตะ เขาเต็มใจยืดอกรับอย่างเต็มตัวว่าชื่อของพ่อนี่แหละที่จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเป็นนักสู้ของเขา 

ติดตามเรื่องราวไปพร้อมกับ Main Stand

 

ลูกไม้หล่น (ไม่) ไกลต้น 

ชีวิตของ โคตะ มิอุระ เรียกได้ว่าผูกพันกับกีฬามาตั้งแต่เด็ก เมื่อเขาคือลูกชายคนที่สองของ "คิงคาซู" คาซึโยชิ มิอุระ นักเตะระดับตำนานของญี่ปุ่น และเป็นเจ้าของสถิตินักเตะอายุมากที่สุดในโลกที่ลงเล่นในลีกสูงสุด หลังลงเล่นให้กับ โยโกฮามา เอฟซี ในเกมพบกับ อุราวะ เรดส์ ด้วยวัย 54 ปีกับอีก 12 วัน เมื่อปี 2021 

เขาเกิดที่เมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโงะ เมื่อปี 2002 สมัยที่ คาซู ค้าแข้งอยู่กับ วิสเซิล โกเบ และถูกผลักดันให้เล่นฟุตบอลตามพ่อของเขา ซึ่งเขาก็ไม่ปฏิเสธ และได้ทุ่มเทให้กับมันอย่างเต็มที่จนก้าวขึ้นไปติดทีมโรงเรียน 

อย่างไรก็ดี โคตะ ก็มีกีฬาอีกชนิดหนึ่งที่หลงใหลไม่แพ้กัน นั่นคือศิลปะการต่อสู้ เนื่องจาก คาซู ชอบกีฬามวยมาก บวกกับความชื่นชอบ คาสุฮิสะ วาตานาเบะ นักชก K-1 ทำให้สมัยเด็กนอกจากซ้อมฟุตบอลแล้ว เขาจะไปเรียนมวยที่ยิมสัปดาห์ละหนึ่งครั้งตั้งแต่สมัยอยู่มัธยมต้น 

"ผมเริ่มชอบมัน (ศิลปะการต่อสู้) มาตั้งแต่สมัยประถม แม้ว่าผมจะเล่นมันมาไม่ถึง 10 ปี แต่ถ้านับก็ 8 ปีเห็นจะได้" โคตะ กล่าวในรายการ RIZIN CONFESSIONS #87 

หลังจบมัธยมปลาย โคตะ รู้ดีว่าศิลปะการต่อสู้คือสิ่งที่เขารักมากที่สุด จึงมุ่งมั่นในเส้นทางนี้ด้วยการเข้าไปเรียนศิลปะการต่อสู้เพิ่มเติมที่ Brave Gym ซึ่ง คาซึยูกิ มิยาตะ อดีตนักมวยปล้ำโอลิมปิกเป็นเจ้าของ 

เขาจริงจังกับมันมากถึงขนาดละทิ้งความสบายในฐานะลูกชายของคนดัง ด้วยการย้ายไปเรียนในยิมแบบ "อุจิเดชิ" หรือการไปฝึกวิชาโดยที่กินนอนอยู่ที่บ้านอาจารย์ร่วมกับลูกศิษย์คนอื่น

"จุดที่เด่นที่สุดของเขาคือการออกอาวุธได้หนัก ผมคิดว่าถ้าเขาสามารถต่อยโดยไม่แพ้เลยก็คงจะดี" คาซึยูกิ มิยาตะ ประธาน Brave ยิมพูดถึงลูกศิษย์ 

ท้ายที่สุด โคตะ ก็ได้ไปอยู่ในสังกัด Rizin Fighting Federation องค์กรศิลปะการต่อสู้ชื่อดังของญี่ปุ่น ซึ่งหมายความว่าเขาจะมีโอกาสได้เปิดตัวในฐานะนักสู้คนใหม่ของสมาคม และหลุดพ้นจากคำว่า "ลูกชายของคิงคาซู" ที่เขาเจอมาตลอดชีวิต   

อย่างไรก็ตามมันกลับไม่ง่ายขนาดนั้น 

 

ขอยืมชื่อพ่อ

โคตะ รู้ดีว่าพ่อของเขานั้นโด่งดังเพียงใด เพราะนี่คือตำนานของวงการกีฬาญี่ปุ่น ทำให้ไม่ว่าจะพยายามผลักดันตัวเองเพื่อให้พ้นร่มของคิงคาซูมากแค่ไหน แต่มันก็ยากตราบใดที่เขายังไม่ได้เดบิวต์ในฐานะนักกีฬาอาชีพ 

ทำให้ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เมื่อ Rizin มีแผนที่จะเปิดตัวเขาในฐานะนักสู้หน้าใหม่ ด้วยการให้ลงชกในไฟต์ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ที่ไซตามะ ซูเปอร์ อารีนา เขาจึงเลือกที่จะใช้ชื่อของพ่อในการโปรโมต  

เพราะ โคตะ เองต่างก็รู้ดีว่า ทัวร์นาเมนต์ของ Rizin แค่ฝีมือเพียงอย่างเดียวมันไม่พอที่จะทำให้สปอตไลท์ส่องมายังนักสู้ที่ยังไม่เคยชกเลยแม้แต่ไฟต์เดียว แต่แทนที่จะต่อต้านเขากลับเลือกที่จะเข้าร่วม และยืดอกรับการเป็นลูกของ "คิงคาซู" ด้วยความภาคภูมิใจ 

"แน่นอนว่าเรื่องชัยชนะเป็นสิ่งสำคัญ แต่มันก็ต้องมีสิ่งที่ทำให้ครึกครื้นด้วย ด้วยเหตุนี้จึงต้องใช้ชื่อของผมในแนวทางนี้ (เชื่อมโยงกับพ่อ) เพราะแค่ฝีมือมันยังไม่พอ และนั่นก็คือสิ่งที่ผมต้องการ" โคตะ กล่าวกับ Numbers

ทำให้ก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มขึ้น โคตะ จึงถูกโปรโมตในฐานะลูกชายของนักฟุตบอลชื่อดังและดูเหมือนว่ามันจะได้ผล เมื่อเขาได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม พร้อมกับไปปรากฏอยู่ในสื่อมากมายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ บวกกับตัวเขาเองที่มีหน้าตาหล่อเหลา ทำให้มีเหล่าแม่ยกพ่อยกตามกรี๊ดพอสมควร 

"เขาสามารถไปกับมวยได้ เขามีทั้งความเร็วและกึ๋น รวมทั้งยังสามารถสร้างแรงกระเพื่อมได้" ยูอิจิ คาซาอิ ตัวแทนของ Glove Cadio Boxing อธิบายในรายการ RIZIN CONFESSIONS #87

จนกระทั่งวันที่ 31 ธันวาคม วันดีเดย์ของโคตะก็มาถึง  

 

เดินตามรอย

โคตะ มิอุระ ถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในนักสู้ในทัวร์นาเมนต์ส่งท้ายปีของ RIZIN ที่มีชื่อว่า "Rizin 33" ในรุ่นเฟเธอร์เวต ตอนแรกเขามีคิวจะลงสู้กับนักชกจากบราซิล แต่เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ทำให้ ยูชิ นักสู้ชาวญี่ปุ่นกลายมาเป็นคู่ชกของเขาแทน 

ในไฟต์ดังกล่าว คิงคาซู และ ริซาโกะ มิอุระ แม่ของเขาต่างก็มาเชียร์ถึงขอบเวที ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง หลังจากถูกคู่ต่อสู้ลุยเข้ามาทันทีตั้งแต่ระฆังดังขึ้น เขาก็ตอบโต้ด้วยการไล่เตะเจาะยางทันที 

และเมื่อคู่ต่อสู้ของเขาพยายามจับล็อก เขาก็เคาต์เตอร์ด้วยท่ากิโยติน โช้ก (ใช้ท่อนแขนรัดคอ) ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ ไทรแองเกิล โช้ก ที่ใช้ทั้งช่วงขาและข้อเท้ารัดคอคู่ต่อสู้จนคู่ต่อสู้ทำอะไรไม่ได้ แม้ว่าจะมีจังหวะที่คู่ต่อสู้หลุดออกมาได้และฉวยโอกาสชกเข้าที่หน้าของเขา แต่สุดท้าย โคตะ ก็จับคู่ต่อสู้มาล็อกได้อีกครั้ง 

"เพราะอีกฝ่ายพุ่งเข้ามาผมก็เลยพุ่งไป ผมมั่นใจว่าผมมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่า ทำให้แม้อีกฝ่ายจะพุ่งเข้ามาผมก็ตอบโต้กลับไปตามปกติ และมันทำให้ผมมีโอกาสในช่วงหลัง" โคตะ กล่าว

จนกระทั่งในช่วงท้ายของยกแรก ขณะที่คู่ต่อสู้เมาหมัดที่เขาเพิ่งกระหน่ำบรรเลงไปและพยายามจะยืนขึ้น โคตะ ก็ใช้โอกาสนั้นใช้ท่า "ซอคเกอร์บอลคิก" หรือท่าเตะฟุตบอลหวดไปอย่างเต็มแรง พร้อมต่อยซ้ำ จนทำให้คู่ต่อสู้ล้มทั้งยืน และในที่สุดกรรมการก็เข้ามายุติการชก 

"พอมีโอกาส ผมก็อยากสร้างความตื่นเต้นด้วยการใช้ท่าเตะฟุตบอล เมื่อใดก็ตามที่หน้าของคู่ต่อสู้มาอยู่ที่ตำแหน่งนั้น ผมก็จะเตะทันที เพราะว่าฟุตบอลนั้นเคลื่อนที่เร็วกว่า แต่ขั้นตอนนั้นไม่ง่าย ดังนั้นการฝึกฝนจึงเป็นสิ่งสำคัญ" โคตะ อธิบาย 

นอกจากนี้เมื่อคู่ต่อสู้ล้มลง เขาก็ฉลองด้วยท่า "คาซูแดนซ์" อันโด่งดังของพ่อของเขา เรียกได้ว่าไม่ทิ้งลายการเป็นลูกชายของนักฟุตบอลจนถึงหยดสุดท้าย 

"ผมลังเล (ว่าจะทำหรือไม่ทำ) คาซูแดนซ์เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากความรักและการทุ่มเทยาวนานในการเล่นฟุตบอลของพ่อที่มากกว่าใคร และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าแฟน ๆ และมันไม่ได้เต้นกันง่าย ๆ ผมจึงเลียนแบบท่าโพสตอนจบแทน" 

ชัยชนะในไฟต์เปิดตัว ทำให้ชื่อของ โคตะ มิอุระ ฮอตฮิตติดเทรนด์ ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ รวมถึงในประเทศไทยที่หลายสื่อพากันเปิดวาร์ปนักสู้หน้าหล่อฝีมือดีรายนี้ในช่วงวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมา 

แต่สำหรับ โคตะ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น 

 

ราชา (คิง) แห่งวงการศิลปะการต่อสู้ 

อันที่จริงตอนที่เขารู้ตัวว่าต้องเปิดตัวในฐานะลูกชายของ "คิงคาซู" เขาเองก็รู้สึกกดดันไม่น้อย แต่พ่อของเขาก็ให้กำลังใจว่า "เมื่อผู้ใหญ่ตัดสินใจไปแล้ว จงยืดอกรับอย่างสง่าผ่าเผย" 

และ โคตะ ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า เขามีดีกว่าการเป็นลูกชายของนักฟุตบอลชื่อดัง เมื่อทำได้ดีทั้งฟุตเวิร์ค ท่าซับมิชชั่น รวมไปถึงท่าเตะลูกฟุตบอล ที่กลายเป็นพาดหัวข่าวในแทบทุกสื่อหลังไฟต์นั้น 

เขามีทั้งความอึดที่สามารถทนทานการกอดรัดฟัดเหวี่ยงจากคู่ต่อสู้ รวมไปถึงการตัดสินใจที่เด็ดขาด และทำมันไปตามธรรมชาติในแบบไร้ความกดดัน จนทำให้ไฟต์เปิดตัวของเขาสมบูรณ์แบบ

"งานส่งท้ายปีเป็นเวทีพิเศษที่ไม่ใช่แค่สำหรับนักกีฬา แต่รวมไปถึงแฟนศิลปะการต่อสู้ด้วย จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่จะมีคำพูดว่า 'การเปิดตัวที่ลํ้าค่าสำหรับนักกีฬาแบบนี้'" เจ้าหน้าที่ MMA ไม่ระบุนามกล่าวกับ JP Prime  

อย่างไรก็ดีต้องยอมรับว่านี่เป็นเพียงไฟต์แรกของเขาเท่านั้น และเส้นทางของเขาก็ยังอีกยาวไกล โคตะ ยังต้องพยายามอย่างหนัก รวมทั้งสะสมประสบการณ์อีกมากในอาชีพการเป็นนักสู้ MMA 

"หากพูดถึงระดับการแข่งขัน มันต่างเป็นแมตช์แรกในอาชีพศิลปะการต่อสู้ของโคตะและคู่แข่ง ผมจึงคิดว่าการแข่งขันจึงไม่น่าระดับสูงขนาดนั้น" โคจิ ฟุเสะ นักข่าวผู้คร่ำหวอดในวงการ MMA ญี่ปุ่นกล่าวกับ JP Prime 

"ผมคิดว่าเขาเป็น 'นักกีฬาที่ยื้อเก่ง' ก่อนจะจบยก เขาจบการแข่งขันด้วยการตัดสินใจอย่างเด็ดขาด และเข้ามาอยู่ในประวัติศาสตร์ของครอบครัวมิอุระ ผมคิดว่าเขาจะไปได้ไกล" 

แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่ตัว โคตะ ก็รู้ดีและตั้งเป้าจะไปให้ถึงจุดนั้น เขายังมีบทเรียนอีกมากมายที่เขาต้องจดจำและฝึกฝน เพื่อให้สมกับการเป็นความหวังใหม่แห่งวงการ MMA ญี่ปุ่น

และบททเรียนต่อไปก็ไม่ต้องรอนาน เพราะ โคตะ มิอุระ เตรียมขึ้นชกในกติกาคิกบ็อกซิ่งเป็นครั้งแรก แถมคู่ต่อสู้ของเขายังถือเป็นตำนานของวงการอย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ ในศึก Rajadamnern World Series ที่เวทีมวยราชดำเนิน วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคมนี้ 

"เขาคือเพชรหยาบที่เปล่งประกายได้จากการขัดเกลา ผมอยากให้เขาเติบโตขึ้นจากการจับคู่ชก เป็นนักกีฬาที่ตรงกับความสามารถมากกว่าเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งในทันที" ฟุเสะ กล่าวต่อ 

แต่สิ่งที่ตัวเขาเองปรารถนามากที่สุดคือการขึ้นมาเป็น ราชา (คิง) เหมือนกับพ่อ และเมื่อวันนั้นมาถึง บางทีวันหนึ่ง "ลูกชายคาซู" อาจจะไม่ใช่คำเรียกขานสำหรับ โคตะ มิอุระ ต่อไป แต่เป็นคาซูที่จะถูกเรียกว่า "พ่อของโคตะ" ก็เป็นได้ 

"ตอนที่ผมออกมา (เข้า RIZIN) ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์และใส่ร้าย แต่หลังจากนั้นคำสนับสนุนก็ค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น และมันก็ช่วยผมได้" 

"สมัยเด็กผมสร้างปัญหาให้กับพ่อกับแม่มากมาย แต่ขอบคุณมากที่พวกเขามาดูไฟต์แรกของผม" 

"หลังจากนี้ผมจะพยายามอย่างหนักเพื่อเป็น "ราชา" แห่งโลกศิลปะการต่อสู้ มาเชียร์ผมกันเยอะ ๆ นะครับ" โคตะ ทิ้งท้าย 

 

แหล่งอ้างอิง : 

https://number.bunshun.jp/articles/-/851510 
https://www.jprime.jp/articles/-/22927
https://www.sponichi.co.jp/battle/news/2021/12/31/kiji/20211225s00003000484000c.html 
https://the-ans.jp/news/210444/ 
https://www.youtube.com/watch?v=DilXFBN9w2U 
https://jp.rizinff.com/_tags/%E4%B8%89%E6%B5%A6%E5%AD%9D%E5%A4%AA 
https://asianmma.com/kota-miura-to-debut-at-rizin-33/ 

Author

มฤคย์ ตันนิยม

ลีดส์ ยูไนเต็ด, ญี่ปุ่น, มังงะ

Graphic

ภราดร ภราดร

อยากจะทำให้ดี ไม่ใช่แค่อยากจะทำให้เป็น