ความสำเร็จในครั้งนี้ ไม่ได้สำคัญกับแค่ทีมเรือใบสีฟ้า แต่ว่าสำคัญกับเมืองแมนเชสเตอร์ทั้งเมือง เพราะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลอังกฤษ ที่เมืองแมนเชสเตอร์ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เทียบเท่ากับเมืองลิเวอร์พูล
ก่อนหน้านี้ลิเวอร์พูลคือเบอร์ 1 มาตลอด ในฐานะผู้นำของเมืองที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดมากที่สุดในเกาะอังกฤษ จากสองสโมสรยักษ์ใหญ่ประจำเมือง อย่าง ลิเวอร์พูล และเอฟเวอร์ตัน
โดยลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ได้ทั้งหมด 19 ครั้ง แบ่งเป็นแชมป์ดิวิชั่น 1 เดิม 18 ครั้ง และแชมป์พรีเมียร์ลีกอีก 1 ครั้ง ขณะที่เอฟเวอร์ตันคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ 9 สมัย โดยเป็นแชมป์ดิวิชั่น 1 เดิมทั้งหมด
แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป หลังจากที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ลีกในปีนี้ เพราะทำให้แมนเชสเตอร์สถาปนาตัวเองเป็นเมืองลูกหนังเบอร์ 1 เทียบเท่ากับลิเวอร์พูล หลังจากคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ 28 ครั้งเท่ากัน
โดย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ทั้งหมด 20 ครั้ง แบ่งเป็นแชมป์ดิวิชั่น 1 เดิม 7 ครั้ง และแชมป์ยุคพรีเมียร์ลีกอีก 13 ครั้ง
ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ทั้งสิ้น 8 ครั้ง เป็นยุคดิวิชั่น 1 เดิม 2 ครั้ง ตามด้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 ครั้ง
นี่อาจเป็นคำตอบที่ทำให้หลายคนเข้าใจได้ชัดเจนว่า เหตุใดในยุคปัจจุบัน แฟนแมนฯ ยูไนเต็ดที่ประเทศอังกฤษ ถึงเอาใจช่วยทีมคู่ปรับร่วมเมืองอย่างแมนฯ ซิตี้ ให้คว้าแชมป์ลีก มากกว่าคู่ปรับต่างเมืองอย่าง ลิเวอร์พูล
เพราะสุดท้ายการได้แชมป์ของทีมเรือใบสีฟ้า ก็คือความสำเร็จของเมืองแมนเชสเตอร์ที่เอาชนะเมืองคู่แข่งทางประวัติศาสตร์ที่ฝังรากลึกมายาวนานอย่างลิเวอร์พูลได้สำเร็จ
ที่มา :
https://www.myfootballfacts.com/premier-league-winners/